องค์ Raiden Makoto (ภาษาญี่ปุ่น: 雷電真 ไรเด็น มาโกโตะ; ja_tn: อัสนีจริงแท้) ผู้มีพระนามเทพเจ้าว่าองค์ Baal ทรงเป็นอดีตเทพีอัสนีองค์แรกแห่งประเทศ Inazuma ผู้ครองตำแหน่งก่อนพระขนิษฐาพระองค์ Ei อุดมคติขององค์ Makoto นั้นคือนิรันดรเช่นเดียวกัน แต่ทรงตั้งมั่นกับการใช้ช่วงเวลาที่กำลังผ่านพ้นไปอย่างคุ้มค่าแทนที่จะเป็นความนิ่งสงัดที่องค์ Ei ทรงยึดถือ
พระองค์ Makoto ทรงเสด็จสวรรคตไปในวันมหาหายนะเมื่อเวลาห้าร้อยปีในอดีตกาล นับจากนั้นพระองค์ Ei ได้ทรงขึ้นสืบราชสมบัติแทนที่พระนางในรัฐบาลโชกุน
โปรไฟล์[]
บทนำตัวละคร[]
ในอดีตองค์ Makoto และองค์ Ei ทรงเป็นเทพีแฝดสองผู้เคยผ่านพ้นช่วงเวลาในสงครามเทพอสูรมาด้วยกัน โดยองค์ Ei ทรงพระปรีชาการรบมากกว่าองค์ Makoto ผู้รักสันติสุข แต่องค์ Ei ก็ทรงเชื่อว่าองค์ Makoto จะเป็นผู้ปกครองมนุษยชาติได้ดีกว่าตน หลังจากที่ทรงกำชัยและสังหารผู้ขัดขวางจนสิ้น องค์ Ei ได้ทรงสละกายหยาบเพื่อให้องค์ Makoto ทรงเสด็จขึ้นสู่แดน Celestia ไปครองตำแหน่งหนึ่งในเจ็ดเทพเจ้า เมื่อองค์ Makoto ทรงได้ขึ้นเป็นเทพเจ้าอัสนีองค์แรกแล้วจึงได้ทรงสร้างกายหยาบใหม่ให้แก่องค์ Ei และทรงแต่งตั้งพระขนิษฐาฝาแฝดเป็นคาเกมูฉะ (ภาษาญี่ปุ่น: 影武者 "นักรบเงา") พร้อมสลับตัวกันทุกเมื่อ ทำให้ทั้งโลกเชื่อว่าเทพีอัสนีมีเพียงพระองค์เดียว ทั้งสองพระองค์ต่างปกครองแผ่นดินอินาสึมะร่วมกัน จึงไม่มีเหตุอันใดให้สาธารณชนล่วงรู้ เป็นที่เชื่อกันว่าพระนาม "Baal" และยศศักดิ์โชกุนอสนีบาตล้วนแต่หมายถึงทั้งสองพระนาง
อุปนิสัย[]
ตามคำให้การของ Yae Miko ได้กล่าวว่าถึงแม้จะไม่เคยรับใช้ใกล้ชิดแต่ตนก็เห็นว่าองค์ Makoto ทรงเป็นเทพีผู้มีพระทัยโอบอ้อมอารีย์และไม่ทรงโปรดการใช้ความรุนแรง พระนางทรงสนพระราชหฤทัยในชีวิตมนุษย์ อาจเป็นจากการชมชอบธรรมชาติความมุมานะทะยานอยากของมนุษยชาติ แต่ยังทรงตรัสเอาไว้ว่าทุกสรรพสิ่งย่อมมีจุดจบกันทั้งสิ้น องค์ Ei ทรงเชื่อว่าองค์ Makoto ทรงมีพลังทำนายอนาคต
ดาบมุโซ อิชชิน ที่ปัจจุบันองค์ Ei ทรงครอบครองนั้นเคยเป็นขององค์ Makoto มาก่อน และเมื่อครั้งอยู่ในมือเจ้าของเก่าพระองค์ทรงไม่เคยลับคมดาบแม้แต่ครั้งเดียว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในยามสันติ องค์ Makoto ทรงผาสุขกับการใช้ชีวิตเคียงข้างองค์ Ei และทรงมีนิสัยสบาย ๆ ไม่ทรงเครียด
เนื้อเรื่อง[]
ประวัติศาสตร์[]
องค์เทพี Makoto ทรงกำชัยในสงครามเทพอสูรร่วมกับพระองค์ Ei และทรงปกครองแผ่นดิน Inazuma อย่างเที่ยงธรรมมานับแต่นั้น สัตว์โลกทั้งหมดในดินแดนพระองค์ต่างใช้ชีวิตกันอย่างสงบสันติ องค์ Makoto ได้ทรงเห็นชอบให้องค์ Ei รับหน้าที่เป็นนักรบเงา Kagemusha คอยปกปักษ์อยู่หลังม่าน และยังได้เสด็จประพาสไปพบกับเจ็ดเทพเจ้าเป็นครั้งคราวในดินแดน Liyue ในกิจการบริหารประเทศ Inazuma องค์ Makoto จะทรงทำหน้าที่จัดการงานมหาดไทย ส่วนองค์ Ei ทรงรับผิดชอบภารกิจด้านกลาโหมที่ต้องใช้กำลังทหารเข้าสู้
ทั้งสองเทพีได้ปกครองบ้านเมืองอย่างเป็นสุขเรื่อยมาจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์หายนะเมื่อเวลา 500 ปีก่อนเนื้อเรื่องเกมเริ่มต้นขึ้น ได้เกิดวิกฤติสัตว์ประหลาดรุกรานดินแดนและก่อความวินาศไปทั่วกัน องค์เทพี Makoto ทรงเสด็จเข้าสู่อาณาจักร Khaenri'ah ด้วยตัวพระองค์เองโดยไม่ได้แจ้งพระนาง Ei เมื่อถึงครั้งที่องค์ Ei ทรงพบตัวพระพี่นางใน Khaenri'ah องค์ Makoto ได้ทรงสูญเสียสติสัมปชัญญะไปจากศึกต่อสู้และกำลังใกล้เสด็จสวรรคตเต็มที อย่างไรก็ตาม องค์ Ei ได้ทรงเก็บรักษาความรู้สึกนึกคิดของพระพี่นางไว้ส่วนหนึ่งและนำไปประทับไว้ในประตูโทริอิภายใต้มหาวิหาร Narukami ก่อนที่กายหยาบขององค์ Makoto จะตายลง พระองค์ได้ทรงย้ายความคำนึงของพระนางไปไว้ในดาบ Musou Isshin ที่จะถูกปลุกขึ้นก็ต่อเมื่อองค์ Ei ได้สำแดงฤทธิ์เดชดาบจนถึงขั้นสูงสุดและได้ให้กำเนิดต้นซากุระศักดิ์สิทธิ์จนเติบใหญ่บนภูเขา Yougou อันเป็นผลให้องค์ Ei ได้ทรงใช้พลังจากต้นซากุระศักดิ์สิทธิ์ทำการล้างบางกองทัพสัตว์ประหลาดให้พ้นดินแดน Inazuma
หลังจากที่องค์เทพี Ei ทรงพิชิตหุ่นโชกุนได้สำเร็จหลังจากการประลองอันเข้มข้นเป็นเวลาถึงห้าร้อยปีภายใน สติสัมปชัญญะขององค์ Makoto ได้ถูกปลุกขึ้นมาพูดคุยจากตัวดาบเนื่องด้วยองค์ Ei ได้ทรงใช้พลังถึงขีดสุดสมพระประสงค์ องค์ Makoto ทรงตรัสขออภัยกับพระขนิษฐาที่ทรงเสด็จจากไปโดยไม่บอกกล่าว และองค์ทรงมีความคิดจะเกลี้ยกล่อมมุมมองขององค์ Ei ไปอย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นผลเนื่องจากเหตุฉุกเฉินที่เกิดใน Khaenri'ah ก่อนที่สติของพระองค์จะจางหายไปพระองค์ได้ทรงพระราชทานเม็ดของต้นซากุระศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พระชนิษฐา และทรงตัดพ้ออย่างเสียดายที่พระองค์จะไม่มีวันได้เห็นหน้าตาแผ่นดิน Inazuma ในปัจจุบันอีกต่อไป พระองค์ Ei เองทรงเชื่อว่าพระพี่นางทรงได้องค์เทพี Istaroth เป็นผู้ช่วยสร้างเมล็ดพันธุ์ต้นซากุระศักดิ์สิทธิ์ และถ้าหากไม่ได้องค์ Makoto มองการณ์ไกลไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแผ่นดิน Inazuma ย่อมต้องถูกความมืดมิดกลืนกินไปเป็นแน่
แกลเลอรี[]
