ฮูด (นบี)
ฮูด هود | |
---|---|
สุสาน | ก็อบร์นะบีฮูด ฮัฎเราะเมาต์ (เป็นไปได้)[1] |
ชื่ออื่น | น่าจะเป็นเอเบอร์ (ฮีบรู: עֵבֶר) แต่ยังกำกวม |
ตำแหน่ง | นบี |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | ฮันเซาะละห์ |
ผู้สืบตำแหน่ง | ศอลิห์ |
ฮูด (อาหรับ: هود) เป็นนบีแห่งอาระเบียโบราณที่ถูกกล่าวในอัลกุรอาน[2][3][4][5][6][7][8] โดยมีซูเราะฮ์ที่ 11 ของอัลกุรอานที่เป็น ชื่อตนเอง แม้ว่าจะเล่าเรื่องในบทเพียงไม่มากก็ตาม[3]
เรื่องเล่าในอัลกุรอาน
[แก้]ส่วนหนึ่งของ |
ศาสนาอิสลาม |
---|
|
นี่คือเรื่องราวของฮูดโดยย่อในสองอายะฮ์เฉพาะ:
ชาวอ๊าดมีมีอำนาจและรวยมากและพวกเขาสร้างสิ่งก่อสร้างเป็นจำนวนมาก[9] อย่างไรก็ตาม ความร่ำรวยของชาวอ๊าดทำให้พวกเขาหยิ่งผยองและทอดทิ้งพระเจ้าแล้วเริ่มสักการะเทวรูป ซึ่งรวมไปถึงเทวรูป 3 องค์ที่มีนามว่า ศ็อดดาอ์, เศาะมูด และ อัลฮะบาอ์[10] ฮูดยังคงภักดีต่อพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ แม่แต่ในวัยเด็ก ซึ่งมีอรรถกถาว่าแม่ของฮูด เป็นคนเดียวที่ส่งเสริมให้ฮูดทำอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ ดังนั้น อัลลอฮ์จึงทรงยกฐานะฮูดให้เป็นศาสดาของชาวอ๊าด
เมื่อฮูดเริ่มเทศนาและเชิญชวนให้สักการะพระเจ้าองค์เดียว ชาวอ๊าดเริ่มที่จะด่าทอและเยาะเย้ยคำสอนของท่าน เรื่องราวของฮูดเป็นไปตามวงจรของศาสดาช่วงแรกในอัลกุรอานว่า: ศาสดาถูกส่งมายังผู้คนของเขา เพื่อเรียกร้องให้สักการะพระเจ้าองค์เดียว และบอกให้ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานพรให้พวกเขา[11] ในกุรอานได้เล่าไว้ว่า[3]:
และยังอ๊าด (เราได้ส่ง) พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือฮูด เขากล่าวว่า "โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจงเคารพอิบาดะฮฺอัลลอฮฺเถิดพวกท่านไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พวกท่านมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นพวกอุปโลกน์เท่านั้น
โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย ฉันมิได้ขอร้องต่อพวกท่านซึ่งรางวัลในการนี้เลย รางวัลของฉันนั้นอยู่กับพระผู้ให้บังเกิดฉัน พวกท่านไม่ใช้ปัญญาหรือ?
และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย จงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกท่าน แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ พระองค์จะส่งเมฆ(น้ำฝน) มาเหนือพวกท่าน ให้หลั่งน้ำฝนลงมาอย่างหนัก และจะทรงเพิ่มพลังเป็นทวีคุณให้แก่พวกท่านและพวกท่านอย่าผินหลังโดยเป็นผู้กระทำผิด"
พวกเขากล่าวว่า "โอ้ฮูดเอ๋ย ท่านมิได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมาให้แก่เรา และพวกเราก็จะไม่ละทิ้งพระเจ้าทั้งหลายของเราเพราะคำกล่าวของท่าน และพวกเราก็จะไม่ศรัทธาในตัวท่าน
เราจะไม่กล่าวอย่างใด เว้นแต่พระเจ้าบางองค์ของเราได้นำความชั่วเข้าไปสิงในตัวท่าน" เขา (ฮูด) กล่าวว่า "แท้จริงฉันให้อัลลอฮ์ทรงเป็นพยาน แล้วพวกท่านจงเป็นพยานด้วยว่าแท้จริงฉันปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านตั้งภาคี
อื่นจากพระองค์ ดังนั้นพวกท่านทั้งหมดจงวางแผนทำร้ายฉันเถิด แล้วพวกท่านอย่าได้ให้ฉันต้องรอคอยเลย
แท้จริงฉันมอบหมายต่ออัลลอฮ์ พระเจ้าของฉันและพระเจ้าของพวกท่าน ไม่มีสัตว์เลื้อยคลานใด ๆ เว้นแต่พระองค์ทรงกำขมับมัน แท้จริงพระเจ้าของฉันอยู่บนทางที่เที่ยงตรง
หากพวกท่านผินหลังให้แล้วไซร้ แน่นอนฉันได้แจ้งข่าวแก่พวกท่านแล้ว ตามที่ฉันได้ถูกส่งมายังพวกท่านเพื่อมัน และพระเจ้าของฉันจะทรงแต่งตั้งกลุ่มชนอื่นจากพวกท่านเป็นตัวแทน และพวกท่านจะไม่อันตรายต่อพระองค์แต่อย่างใด แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นผู้ทรงพิทักษ์ทุกสิ่ง"— กุรอาน ซูเราะฮ์ที่ 11 (ฮูด), อายะฮ์ที่ 50-57
ฮูดสั่งสอนชาวอ๊าดเป็นเวลานาน แต่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมฟัง แถมล้อเลียนท่านด้วย ทำให้พระเจ้าส่งพายุฟ้าคะนองมาทำลายพวกอ๊าดให้หมดสิ้น ตามที่กล่าวในอัลกุรอานไว้ว่า:[6]
ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นเมฆทึบเคลื่อนมายังที่ราบลุ่มในหมู่บ้านของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า "นี่คือเมฆที่จะให้น้ำฝนแก่เรา" เปล่าเลย มันคือสิ่งที่พวกเจ้าเร่งขอให้เกิด มันคือลมพายุ ในนั้นมีการลงโทษอันเจ็บปวด!
มันจะทำลายทุกสิ่งตามพระบัญชาของพระเจ้าของมัน แล้วพวกเขาก็กลายเป็นไม่มีอะไรให้แลเห็น นอกจากบ้านพักอาศัยของพวกเขาเท่านั้น เช่นนี้แหละเราจะตอบแทนหมู่ชนผู้กระทำผิด— กุรอาน ซูเราะฮ์ที่ 46 (อัลอะฮ์กอฟ), อายะฮ์ที่ 24-25
ที่ฝังศพ
[แก้]มีการกล่าวถึงที่ฝังศพหลายแห่ง สถานที่ที่โดดเด่นที่สุดคือ ก็อบร์นะบีฮูด ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านร้างในเขตผู้ว่าการฮัฎเราะเมาต์, ประเทศเยเมน และเป็นสถานที่ที่มุสลิมมาแสวงบุญบ่อย โรเบิร์ต เบอร์ทรัม เซอร์เจียนต์ กล่าวยืนยันในงานวิจัยของเขาว่าสุสานของฮูดอยู่ที่นี่[12] ซึ่งคล้ายกับอะลี อิบน์ อะบีบักร์ อัลฮะเราะวี[13]: 97/220-1 ที่อธิบายว่า ที่ประตูมัสยิดฝั่งตะวันตก มีหินที่ฮูดปีนขึ้นไปอะซาน และอุโมงค์ บัลฮุต ใต้หุบเขาลึก[1] รอบ ๆ สุสานและบริเวณนั้น พบซากปรักหักพังสมัยโบราณและจารึกมากมาย[14] อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งที่เป็นไปได้อีกแห่งอยูใกล้บ่อซัมซัมในประเทศซาอุดีอาระเบีย[13]: 86/98 หรือกำแพงทิศใต้ของมัสยิดอุมัยยะฮ์ในประเทศซีเรีย[13]: 15/38 นักวิชาการบางคนกล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวมัสยิดมีจารึกที่เขียนไว้ว่า: "ฮาซามะกอมฮูด" (อาหรับ: هذا مقام هود, "นี่คือสุสานของฮูด")[15] อย่างไรก็ตาม อีกส่วนหนึ่งกล่าวแนะว่า นี่คือความเชื่อในธรรมเนียมท้องถิ่น[1]
ดูเพิ่ม
[แก้]- เรื่องเล่าของคัมภีร์ไบเบิลและอัลกุรอาน
- รายชื่อตำนานในอัลกุรอาน
- มุฮัมมัดในศาสนาอิสลาม
- นบี
- กิเศาะศุลอันบิยาอ์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 Wensinck, A.J.; Pellat, Ch. (1960–2007). "Hūd" (PDF). ใน Bearman, P.; Bianquis, Th.; Bosworth, C.E.; van Donzel, E.; Heinrichs, W.P. (บ.ก.). Encyclopaedia of Islam (2nd ed.). Brill. p. 537. doi:10.1163/1573-3912_islam_SIM_2920. ISBN 9789004161214. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-23. สืบค้นเมื่อ 2020-11-10.
{{cite book}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) CS1 maint: date format (ลิงก์) - ↑ อัลกุรอาน 7:65–72 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ 3.0 3.1 3.2 อัลกุรอาน 11:50–60 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ อัลกุรอาน 26:123–139 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ อัลกุรอาน 38:11–13 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ 6.0 6.1 อัลกุรอาน 46:21–26 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ อัลกุรอาน 50:12–14 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ อัลกุรอาน 54:21–26 (แปลโดย พิกทอลล์)
- ↑ อัลกุรอาน 26:128–129
- ↑ Ibn Kathir. "Story of Hud". Qisas Al-Anbiya [Stories of the Prophets].
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อNoegel
- ↑ Serjeant, Robert Bertram (1954). "Hud and Other Pre-islamic Prophets in Hadhramawt". Le Muséon. Peeters Publishers. 67: 129.
- ↑ 13.0 13.1 13.2 Ali ibn abi bakr al-Harawi. Kitab al-Isharat ila Ma rifat al-Ziyarat [Book of indications to make known the places of visitations].
- ↑ van der Meulen, Daniel; von Wissmann, Hermann (1964). Hadramaut: Some of its mysteries unveiled. Publication of the De Goeje Fund no. 9. (1st ed.). Leiden: E.J. Brill. ISBN 978-90-04-00708-6.
- ↑ Ibn Battuta. Rihla [The Travels]. i, 205; ii, 203.
บรรณานุกรม
[แก้]อ้างอิงในอัลกุรอาน
[แก้]- ชาวอ๊าดก่อตั้งดินแดน: 7:69 (ชากิร), 26:133–134 (ชากิร), 89:7–8 (ชากิร)
- ความดื้อรั้นของชาวอ๊าด: 41:15 (ชากิร), 26:128–129 (ชากิร),
- คำทำนายของฮูด: 7:65–72 (ชากิร), 11:50–57 (ชากิร), 23:32 (ชากิร) 26:124–127 (ชากิร), 26:131–132 (ชากิร), 26:135 (ชากิร), 46:21–23 (ชากิร)
- การข่มเหงฮูด: 7:66–67 (ชากิร), 11:53–55 (ชากิร), 14:9 (ชากิร), 26:136–137 (ชากิร) 38:12 (ชากิร), 46:21 (ชากิร), 50:13 (ชากิร), 54:18 (ชากิร)
- การทำลายชาวอ๊าด: 7:72 (ชากิร), 11:58 (ชากิร), 11:89 (ชากิร), 23:41 (ชากิร), 25:38 (ชากิร), 26:139 (ชากิร), 29:38 (ชากิร), 29:40 (ชากิร), 40:31 (ชากิร), 41:13 (ชากิร), 41:16 (ชากิร), 46:24–25 (ชากิร), 51:41–42 (ชากิร), 53:50 (ชากิร), 54:19–20 (ชากิร), 69:6–8 (ชากิร), 89:6 (ชากิร)
อ่านเพิ่ม
[แก้]- ตัฟซีรกุรอานในตอน VII, XI, XXVI (cf. index: Hud)
- Ibn Qutaybah (1960). Kitāb al-Ma'ārif (ภาษาอาหรับ) (‘Ukāshah, Tharwat ed.). Cairo: Dār al-Kutub. pp. 28, 56.
- Al-Tabari. Tārīkh al-Rusul wa al-Mulūk [History of the Prophets and Kings]. Vol. I. p. 231.
- Al-Tha'alibi (2002). Qisas Al-Anbiya [Tales of the Prophets]. แปลโดย Brinner, William M. Leiden: Brill. pp. 105–113. ISBN 90-04-12589-2.
- Abu Muhammad al-Hasan al-Hamdani. Kitāb al-Iklīl min akhbār al-Yaman wa-ansāb Ḥimyar [Crowns from the Accounts of al-Yemen and the genealogies of Ḥimyar] (ภาษาอาหรับ). Vol. I. p. 37.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "Prophet Hud". Witness-Pioneer: A Virtual Islamic Organization. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 January 2002. สืบค้นเมื่อ 21 November 2019.