มิชลิน
![]() | |
![]() สำนักงานใหญ่ของมิชลินที่ แกลร์มง-แฟร็อง | |
ประเภท | บริษัทมหาชนจำกัด |
---|---|
ISIN | FR0000121261 ![]() |
อุตสาหกรรม | ชิ้นส่วนรถยนต์และรถบรรทุก |
ก่อตั้ง | 28 พฤษภาคม 1889 |
ผู้ก่อตั้ง | |
สำนักงานใหญ่ | , ฝรั่งเศส |
ผลิตภัณฑ์ | ยาง บริการช่วยเหลือการเดินทาง |
รายได้ | ![]() |
รายได้จากการดำเนินงาน | 2,652,000,000 ยูโร (พ.ศ. 2566) ![]() |
รายได้สุทธิ | 1,983,000,000 ยูโร (พ.ศ. 2566) ![]() |
พนักงาน | 124,760 คน[1] (2021) |
มิชลิน (ฝรั่งเศส: Michelin) เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์ข้ามชาติของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในแกลร์มง-แฟร็อง แคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบริดจสโตน และใหญ่กว่าทั้งกู๊ดเยียร์ และคอนติเนนทัล เอจี[2] นอกจากแบรนด์มิชลินแล้ว พวกเขายังเป็นเจ้าของแบรนด์ยางรถยนต์อีกหลายแบรนด์ มิชลินยังมีความโดดเด่นจากมิชลินไกด์, แผนที่นำทาง, ดาวมิชลินที่มิชลินไกด์มอบให้กับร้านอาหารที่ผ่านมาตรฐาน และสำหรับมาสคอตของบริษัท Bibendum หรือที่เรียกขานกันว่า มิชลินแมน มนุษย์หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ซึ่งทำจากยาง
สิ่งประดิษฐ์มากมายของมิชลินได้แก่ ยางแบบถอดได้ ยาง pneurail (ยางสำหรับรถไฟฟ้าล้อยาง) และยางเรเดียล
มิชลินผลิตยางสำหรับกระสวยอวกาศ[3] เครื่องบิน รถยนต์ เครื่องจักรกลหนัก รถจักรยานยนต์ และจักรยาน ในปี ค.ศ. 2012 กลุ่มบริษัทผลิตล้อยางได้ 166 ล้านเส้นที่โรงงาน 69 แห่งใน 18 ประเทศ[4]
ประวัติ
[แก้]ในปี ค.ศ. 1889 2 พี่น้องจากตระกูลมิชลิน คือเอดูอาร์ มิชลิน และอ็องเดรย์ มิชลิน ดำเนินธุรกิจอุปกรณ์การเกษตรในแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส อยู่มาวันหนึ่ง นักปั่นจักรยานที่ต้องการซ่อมยางได้มาที่โรงงาน ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการซ่อมยาง วันต่อมา เอดูอาร์ มิชลินนำจักรยานที่ซ่อมแล้วไปที่สนามของโรงงานเพื่อทำการทดสอบ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ 100 เมตร ยางก็แตก
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Michelin 2021 Full Year Results. Michelin. สืบค้นเมื่อ 18 March 2022.
- ↑ "10 largest tire manufacturers cruising through the roads". May 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 October 2021. สืบค้นเมื่อ 23 October 2021.
- ↑ "Tyres - Car Servicing - Repairs - Chapel Corner Tyres". www.chapelcornertyres.com.au. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 September 2011. สืบค้นเมื่อ 11 December 2010.
- ↑ Staff (6 May 2013). "Global 2000". Forbes (Paper). p. 17.