ป้ายทะเบียนรถ
ป้ายทะเบียนรถ (อังกฤษ: vehicle registration plate) เป็นแผ่นป้ายทำจากโลหะหรือพลาสติก มีทะเบียนรถ เพื่อใช้ในการระบุรถยนต์หรือยานพาหนะทางบกประเภทอื่น ๆ
ป้ายทะเบียนรถในแต่ละประเทศ
[แก้]สหรัฐอเมริกา
[แก้]ป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลในประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันทำจากอะลูมิเนียม มีขนาด 12 x 6 นิ้ว ในสหรัฐอเมริกาแต่ละรัฐจะกำหนดสีและเลขทะเบียนโดยหน่วยงานของแต่ละรัฐ 30รัฐจากทั้งหมด 50รัฐ บังคับให้รถทุกคันมีป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถยนต์ จำนวนตัว6-7ตัวอักษร ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้ทุกตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ยกเว้นแซงปีแยร์และมีเกอลงซึ่งเป็นดินแดนของประเทศฝรั่งเศส [1]
สหราชอาณาจักร
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ป้ายทะเบียนรถยนต์ (เรียกกันทั่วไปว่า "ป้ายทะเบียน" ในภาษาอังกฤษแบบบริติช) คือป้ายทะเบียนตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้แสดงเครื่องหมายจดทะเบียนของยานพาหนะ และมีอยู่ในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2447 ยานยนต์ที่ใช้บนถนนสาธารณะต้องแสดงป้ายทะเบียนรถยนต์ยกเว้นยานพาหนะของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลที่ทรงครองราชย์ซึ่งใช้ในภารกิจราชการ[ 1 ]พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2446ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2447 กำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องลงทะเบียนในทะเบียนรถ อย่างเป็นทางการ และต้องมีป้ายทะเบียนแบบตัวอักษรและตัวเลข พระราชบัญญัตินี้ได้รับการตราขึ้นเพื่อให้สามารถติดตามยานพาหนะได้ง่ายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือเหตุการณ์อื่นใด ป้ายทะเบียนแบบตัวอักษรและตัวเลขของรถยนต์ในสหราชอาณาจักรมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีขนาดที่ได้รับอนุญาตที่แน่นอนของป้ายทะเบียนและตัวอักษรระบุไว้ในกฎหมาย ป้ายหน้าเป็นสีขาว ส่วนป้ายหลังเป็นสีเหลือง
ภายในสหราชอาณาจักรเองมีสองระบบ: หนึ่งสำหรับบริเตนใหญ่ซึ่งรูปแบบปัจจุบันมีขึ้นในปี 2001 และอีกระบบหนึ่งสำหรับไอร์แลนด์เหนือซึ่งคล้ายกับระบบดั้งเดิมในปี 1904 ทั้งสองระบบได้รับการบริหารจัดการโดยหน่วยงานออกใบอนุญาตขับขี่และยานพาหนะ (DVLA) ในสวอนซีจนถึงเดือนกรกฎาคม 2014 ระบบของไอร์แลนด์เหนือได้รับการบริหารจัดการโดยหน่วยงานออกใบอนุญาตขับขี่และยานพาหนะ (DVA) ในโคลเรนซึ่งมีสถานะเดียวกับ DVLA แผนงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรยังมีการระบุไว้ด้านล่าง รหัสการจดทะเบียนรถยนต์ระหว่างประเทศสำหรับสหราชอาณาจักรคือUK [ 2 ] ก่อนวันที่ 28 กันยายน 2021 คือGB [ 3 ] ข้อกำหนดของแผ่นป้ายทะเบียน ที่มีรหัสของสหราชอาณาจักรถูกสร้างขึ้นโดยสมาคมผู้ผลิตแผ่นป้ายทะเบียนอังกฤษ และถือเป็นการออกแบบเริ่มต้นโดยกระทรวงคมนาคม[ 4 ]
ประเทศจีน
[แก้]แผ่นดินใหญ่
[แก้]ป้ายทะเบียนรถยนต์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ออกโดยสำนักงานจัดการยานพาหนะ ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ
ระบบป้ายทะเบียนรถยนต์ของจีนที่ใช้ในปัจจุบัน อิงตามมาตรฐาน GA36-2007 (พ.ศ. 2550) ซึ่งมีลักษณะดังนี้
- พื้นหลังสีฟ้า
- อักษรย่อภาษาจีนของมณฑล 1 ตัว เช่น 京 (京 = ปักกิ่ง)
- อักษรละติน 1 ตัว แทนเขตการปกครองในมณฑลนั้น
- ตัวเลขหรืออักษรละติน 5 ตัว ออกโดยสำนักงานจัดการยานพาหนะพื้นที่ โดยหมายเลขเหล่านี้จะถูกสุ่มเลือกด้วยระบบคอมพิวเตอร์
อนึ่ง ระบบป้ายทะเบียนรุ่นก่อนหน้าซึ่งมีพื้นหลังสีเขียวและใช้ชื่อเต็มของมณฑล เคยใช้ลำดับหมายเลขแบบเรียง แต่เนื่องจากปัญหาการทุจริต จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระบบปัจจุบัน
ป้ายทะเบียนสีเหลือง จะออกให้กับรถจักรยานยนต์และรถขนาดใหญ่ เช่น รถโค้ชและรถโดยสาร ส่วนป้ายทะเบียนสีดำ จะออกให้กับรถทางการทูตและรถของชาวต่างชาติ (รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า) รถยนต์ที่จดทะเบียนในฮ่องกงหรือมาเก๊า และได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในจีน จะต้องมีป้ายทะเบียนสีดำพิเศษที่ออกโดยจีน เนื่องจากฮ่องกงและมาเก๊ามีระบบการจดทะเบียนรถของตัวเอง ป้ายทะเบียนจีนสำหรับรถยนต์เหล่านี้ จะใช้รูปแบบตัวอักษรย่อประจำมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งย่อเป็น "粤" (yuè) ตามด้วยอักษรละติน "Z" ต่อด้วยตัวเลขและ/หรือตัวอักษรละติน 4 ตัว และลงท้ายด้วยอักษรย่อของเขตปกครองพิเศษ เช่น "港" (gǎng) สำหรับฮ่องกง และ "澳" (ào) สำหรับมาเก๊า ตัวอย่างเช่น สำหรับรถยนต์มาเก๊า
สำหรับรถจักรยานยนต์ ป้ายทะเบียนด้านหน้าจะมีเพียงตัวเลข 5 ตัวเท่านั้น ส่วนป้ายด้านหลังจะแสดงข้อมูลทั้งหมด ตัวอย่างเช่น รถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนในนครเซี่ยงไฮ้ ได้ป้ายทะเบียน 沪C•12345 ป้ายด้านหน้าจะมีเพียงแค่ "12345" ส่วนป้ายด้านหลังจะเป็นป้ายมาตรฐานที่แสดงหมายเลขทะเบียนทั้งหมด
ฮ่องกง
[แก้]ป้ายทะเบียนรถของฮ่องกงใช้สีตามระบบของอังกฤษ โดยป้ายด้านหน้าเป็นสีขาว ส่วนด้านหลังเป็นสีเหลือง ตัวเลขประกอบด้วยตัวอักษรสองตัวและตัวเลขสูงสุดสี่ตัว เช่น AB1234 ป้ายทะเบียนที่ขึ้นต้นด้วย "AM" ถูกกำหนดไว้สำหรับรถของรัฐบาล พื้นหลังสีขาวด้านหน้าและสีเหลืองด้านหลัง มีลักษณะสะท้อนแสงเพื่อให้ตรงตามมาตรฐาน BS AU145a
นอกจากระบบป้ายทะเบียนตัวเลขแบบปกติแล้ว ฮ่องกงยังได้เริ่มโครงการป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลแบบใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 โดยผู้ขอป้ายทะเบียนสามารถเลือกตัวอักษรหรือตัวเลขเองได้สูงสุดถึง 8 ตัว
มาเก๊า
[แก้]ระบบป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ใช้วิธีการจัดเรียงและสีตามระบบของโปรตุเกสที่ใช้ก่อนปี พ.ศ. 2535 ดังนี้ พื้นหลังสีดำ ตัวอักษรสีขาว ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร "M" เสมอ ตามด้วยตัวอักษรอีก 1 ตัว (MA, MB, MC, เป็นต้น) ต่อด้วยหมายเลข 4 หลัก ทั้งหมดถูกคั่นด้วยเครื่องหมาย "-" สำหรับป้ายทะเบียนที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะมีเพียงตัวอักษร "M" นำหน้าเท่านั้น
ไต้หวัน
[แก้][[File:Taiwan Province License Plate
1994-2008.jpg|thumb|upright|ป้ายทะเบียนรถไต้หวัน]]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ป้ายทะเทียนรถไต้หวัน
บทความนี้เกี่ยวกับไต้หวัน สำหรับสาธารณรัฐประชาชนจีน โปรดดูป้ายทะเบียนรถของจีน ในไต้หวันรถยนต์ทุกคันต้องจดทะเบียนและแสดงป้ายทะเบียนรถป้ายทะเบียนออกและจัดการโดยกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร (MoTC)หมายเลขทะเบียนรถในไต้หวันประกอบด้วยตัวอักษรละติน (A ถึง Z) ตัวเลขอาหรับ (0 ถึง 9) และเส้นประ (–) และบางประเภทพิเศษยังมีอักขระจีนด้วยไต้หวัน
ป้ายทะเบียนมาตรฐานตามกฎหมายของไต้หวัน ประเทศ
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)
รหัสประเทศ อาร์ซี[ 1 ] ซีรีย์ปัจจุบัน ขนาด 320 มม. × 150 มม. 12.6 นิ้ว × 5.9 นิ้ว สี (ด้านหน้า) สีดำบนสีขาว สี (ด้านหลัง) สีดำบนสีขาว วีทีอี เรียนรู้เพิ่มเติม บทความนี้มีปัญหาหลายประการโปรดช่วยปรับปรุงหรือพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ในหน้าพูดคุย
ตัวอย่างแผ่นที่มีจำหน่ายปี 1992
ตัวอย่างแผ่นที่มีจำหน่าย ปี 2557 ประเภทของป้ายทะเบียน ยานพาหนะขนาดเบา รถบรรทุกหนัก รถจักรยานยนต์ แผ่นป้ายใช้งานพิเศษ ห้ามใช้ตัวอักษรผสมกันบนป้ายทะเบียน อ้างอิง ลิงค์ภายนอก
ประเทศญี่ปุ่น
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในประเทศญี่ปุ่นรัฐบาลกลางจะออกป้ายทะเบียนรถยนต์ให้กับยานยนต์ผ่านสำนักงานที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามเทศบาล ในพื้นที่ จะเป็นผู้จดทะเบียนรถยนต์บางรุ่นที่มีความจุกระบอกสูบเล็ก ไม่ใช่รัฐบาลกลาง
ตัวเลขบนบรรทัดบนสุดคือรหัสประเภทรถซึ่งเริ่มต้นด้วยเลข 0 ถึง 9 เพื่อระบุประเภทรถโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงด้วยความยาว ความกว้าง และความสูงของรถรวมถึงความจุกระบอกสูบ โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีความจุกระบอกสูบเท่ากับหรือน้อยกว่า 2,000 ซีซีจะได้รับป้ายทะเบียนแบบ 5 ซีรีส์ ในขณะที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีความจุกระบอกสูบมากกว่า 2,000 ซีซี (120 ลูกบาศก์นิ้ว) ขึ้นไปจะได้รับป้ายทะเบียนแบบ 3 ซีรีส์
ป้ายทะเบียนรถญี่ปุ่นทั่วไป
ป้ายทะเบียนทูตต่างประเทศมี外
ป้ายทะเบียนทูตต่างประเทศมีกรอบ外 รถยนต์ราชการของราชวงศ์ได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดให้ติดป้ายทะเบียนดังกล่าว รถยนต์ราชการของกองกำลังป้องกันตนเองและนักการทูตต่างประเทศต้องติดป้ายทะเบียนอื่น ๆ
ภาพกลางคืนของ แผ่น จิโกชิกิ (แปลว่า "ตัวอักษรเรืองแสง" ซึ่งหมายถึงตัวอักษรเรืองแสง) ที่อาจออกในโอซากะ
แผ่นป้ายทะเบียนจะติดตั้งไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถ โดยแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังจะยึดกับตัวรถอย่างถาวรด้วยซีลประจำจังหวัดที่ปิดสลักยึดแผ่นป้ายทะเบียนตัวใดตัวหนึ่งไว้อย่างมิดชิด แผ่นป้ายทะเบียนจะถูกถอดออกเฉพาะเมื่อรถถูกขายเป็นมือสองให้กับบุคคลจากจังหวัดอื่น หมดอายุการใช้งาน และถูกขายเป็นเศษเหล็กหรือส่งออก รถใหม่จะไม่ถูกส่งมอบให้กับผู้ซื้อจนกว่าจะติดแผ่นป้ายทะเบียนที่ตัวแทนจำหน่าย
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 1970 เป็นต้นมา เจ้าของรถได้เสนอแผ่นป้ายทะเบียน "จิโคชิกิ" (字光式) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลตามคำขอของเจ้าของ โดยตัวอักษรสีเขียวบนแผ่นป้ายทะเบียนประเภทนี้จะถูกแทนที่ด้วยพลาสติกสีเขียวขึ้นรูปที่สามารถเรืองแสงได้จากด้านหลังแผ่นป้าย ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 1998 เป็นต้นไป หากยังไม่มีการใช้หมายเลขดังกล่าว ก็สามารถขอหมายเลขเฉพาะได้เช่นกัน ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา แผ่นป้ายทะเบียนเหล่านี้จะมีสีน้ำเงินเหมือนกับแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1973
รหัสจดทะเบียนรถยนต์ระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่นคือ J
ประเทศไทย
[แก้]ป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลในประเทศไทย ปัจจุบันทำจากอะลูมิเนียม มีขนาด 13.5 x 6 นิ้ว พื้นป้ายมีลักษณะสะท้อนแสง ตัวอักษรและตัวเลขจะถูกปั๊มนูนออกจากผิวหน้าของป้ายทะเบียน ทำให้ด้านหลังของป้ายนั้นบุ๋มเว้าลงไปตามหมายเลขทะเบียนด้วยเช่นกัน ประเภทของป้ายทะเบียนนั้นสามารถใช้จำแนกประเภทการใช้งานรถได้ ดังนี้
- ป้ายขาวอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
- ป้ายขาวอักษรฟ้า คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง
- ป้ายขาวอักษรเขียว คือ ป้ายทะเบียนรถกระบะ
- ป้ายขาวอักษรแดง คือ ป้ายทะเบียนรถสามล้อ
- ป้ายเหลืองอักษรแดง คือ ป้ายรถรับจ้างระหว่างจังหวัด
- ป้ายเหลืองอักษรดำ คือ ป้ายรถรับจ้าง
- ป้ายเหลืองอักษรฟ้า คือ ป้ายรถกระป๊อ
- ป้ายเหลืองอักษรเขียว คือ ป้ายรถตุ๊กตุ๊ก
- ป้ายเขียวอักษรขาว คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถยนต์บริการให้เช่า
- ป้ายแสดอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถใช้งานเกษตรกรรม
- ป้ายขาวอักษรดำ หมวดอักษร TC กรุงเทพมหานคร คือ ป้ายทะเบียนรถทดสอบก่อนผลิต เริ่มมีใช้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560[2][3] (ป้ายทะเบียนรถยนต์ของไทยนั้นโดยปกติตัวอักษรจะเป็นอักษรไทย)
- ป้ายขาวอักษรดำ หมวดอักษร QC กรุงเทพมหานคร คือ ป้ายทะเบียนรถทดสอบคุณภาพ เริ่มมีใช้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560[2][3]
- ป้ายทะเบียนที่บริเวณชื่อจังหวัดเป็นคำว่า THAILAND ตัวพิมพ์ใหญ่ ตามด้วยเลขรหัสจังหวัดสองหลัก และหมวดอักษรของทะเบียนเป็นอักษรอังกฤษ และ/หรือ ตัวเลข หมายถึงแผ่นป้ายทะเบียนรถที่กรมการขนส่งทางบกออกให้เป็นการชั่วคราวเพื่อนำรถออกไปใช้นอกราชอาณาจักร
สำหรับป้ายทะเบียนรถอีกประเภทหนึ่งคือ ป้ายทะเบียนกราฟิก ซึ่งมีขึ้นภายหลังป้ายทะเบียนแบบปกติ ป้ายทะเบียนนี้จะมีพื้นหลังเป็นรูปภาพ สำหรับเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ (เลขสวย) เช่น ฌร 9999 ซึ่งเลขทะเบียนเหล่านี้จะถูกเปิดประมูลโดยกรมการขนส่งทางบก ป้ายทะเบียนชนิดนี้จะมีภาพพื้นหลังป้ายที่สื่อถึงจังหวัดนั้นๆ เช่น กรุงเทพมหานคร จะมีรูปวัดพระแก้ว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานพระราม 8 เป็นพื้นหลัง เป็นต้น ทะเบียนนี้คือทะเบียนประมูลในช่วงแรกมีการเปิดประมูลป้ายทะเบียนกราฟิกเฉพาะที่เป็นทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เท่านั้น [4] แต่ต่อมาได้เปิดประมูลป้ายทะเบียนเลขสวยของรถตู้และรถกระบะเพิ่มด้วย แต่ป้ายทะเบียนประมูลของรถตู้และรถกระบะจะเป็นภาพพื้นหลังป้ายที่เหมือนกันหมดทั้งประเทศ โดยมีโทนสีเช่นเดียวกับสีและตัวอักษรของทะเบียนปกติ คือขาวฟ้าและขาวเขียวตามลำดับ ไม่ได้ใช้ภาพพื้นหลังป้ายตามแบบของจังหวัดต่างๆแต่อย่างใด ซึ่งทะเบียนรถลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2549
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 ได้เริ่มมีการประมูลป้ายรถตู้ พื้นขาว อักษรฟ้า หมวด ฮล เฉพาะจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในครั้งนั้นได้เงินไปจำนวน 25,273,969.- บาท[5]
ป้ายทะเบียนรถเกิดขึ้นพร้อมกับกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ฉบับแรก คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ รัตนโกสินทร์ศก 128 (พ.ศ. 2452) ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีเจตนารมณ์เพื่อต้องการควบคุมรถและทราบว่าใครเป็นเจ้าของรถ และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี
ถึงแม้ว่าจะมีป้ายทะเบียนรถเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ตามหลักฐานได้มีการออกกฎหมายของกระทรวงครั้งแรกเริ่มมีป้ายทะเบียนรถตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 โดยรูปแบบเป็นแบบ กท.เรียงดิ่ง มีหมวดตัวอักษรและตัวเลขอยู่ในแผ่นป้ายขนาดมาตรฐานกว้าง 11 ซม. ยาว 39 ซม. พื้นหลังเป็นสีดำ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 มีการเปลี่ยนจากรูปแบบ กท. เรียง ดิ่งเป็นแบบเรียงตามแนวนอน มีการเปลี่ยนขนาดแผ่นป้าย เป็นกว้าง 15 ซม. ยาว 30 ซม. และพื้นหลังเป็นสีขาว ลักษณะของป้ายทะเบียนดังกล่าว จะมีการพิมพ์หมวดทะเบียนและหมายเลข 4 ตัว เป็นตัวอักษรขนาดใหญ่ไว้ที่ด้านบนกึ่งกลางป้าย ด้านล่างจะเป็นชื่อจังหวัดพิมพ์เป็นตัวอักษรขนาดเล็ก เช่น 1ก-9999 กรุงเทพมหานคร
ในปี พ.ศ. 2532 กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเปลี่ยนจาก ตราโล่ เป็นตัวย่อ ขส อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน และได้มีการเปลี่ยนงานรับผิดชอบดูแลป้ายทะเบียนรถจาก กระทรวงมหาดไทยมาเป็นกระทรวงคมนาคม ซึ่งรูปแบบทะเบียนรถยังคงเหมือนเดิมทุกประการ โดยเริ่มใช้ตัวย่อ ขส ครั้งแรกในหมวดทะเบียน 6ช-XXXX กรุงเทพมหานคร
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยมีการเพิ่มตัวอักษรเป็น 2 ตัว เช่น กก 9999 รวมทั้งเปลี่ยนขนาดแผ่นป้ายให้ยาวขึ้น จากขนาดยาว 30 ซม. เป็นยาว 34 ซม. เนื่องจากมีการเพิ่มตัวอักษรขึ้นมาอีก 1 ตัว ซึ่งรถยนต์ที่ออกใหม่และจดทะเบียนนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2540 เป็นต้นไป เมื่อถอดป้ายแดงออกจะได้ป้ายทะเบียนเป็นรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งป้ายทะเบียนรูปแบบใหม่หมวดแรกที่รถจดทะเบียนใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครจะได้ในขณะนั้นคือ พพ XXXX กรุงเทพมหานคร ส่วนรถที่จดทะเบียนก่อนหน้านี้ และได้ป้ายทะเบียนรถเป็นแบบเก่า สามารถจดทะเบียนเป็นตัวอักษร 2 ตัวได้โดยที่เลข 4 ตัวยังคงเหมือนเดิม ซึ่งจะได้หมวดอักษรแตกต่างกันไป เช่น ทะเบียน 3ฐ-5639 กรุงเทพมหานคร ถ้าจดทะเบียนใหม่จะได้ป้ายทะเบียนเป็น ธบ 5639 กรุงเทพมหานคร และใช้รูปแบบนี้เรื่อยมาจนถึงหมวดสุดท้ายคือหมวด ฆฮ XXXX กรุงเทพมหานคร กระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยได้มีการเพิ่มตัวเลขด้านหน้าตัวอักษร 2 ตัว ตั้งแต่ 1 ถึง 9 ต่อ 1 หมวดตัวอักษรตัวหน้า เช่น เริ่มตั้งแต่ 1กก XXXX กรุงเทพมหานคร จนถึง 1กฮ XXXX กรุงเทพมหานคร และวนกลับมาเริ่มใหม่ที่ 2กก XXXX กรุงเทพมหานคร รูปแบบใหม่นี้เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งหมวดแรกของป้ายทะเบียนรูปแบบใหม่คือ 1กก XXXX กรุงเทพมหานคร และยังคงใช้รูปแบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ประเทศลาว
[แก้]ป้ายทะเบียนรถยนต์ในประเทศลาว
- ป้ายทะเบียนสีเหลืองอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนในนามบุคคล
- ป้ายทะเบียนสีเหลืองอักษรเทา คือ เป็นรถชาวต่างชาติที่มีใบพำนักถาวร
- ป้ายทะเบียนสีขาวอักษรฟ้า คือ ป้ายรถที่จดทะเบียนในนามบริษัท หรือไฟแนนซ์ ที่ยังผ่อนชำระไม่หมด
- ป้ายทะเบียนสีขาวอักษรดำ คือ เป็นรถชาวต่างชาติที่ไม่มีใบพำนักถาวร
- ป้ายทะเบียนสีขาวอักษรฟ้า ไม่มีแขวงระบุ มีขีดคั่น คือ เป็นรถคนลาวยังไม่เสียภาษี
- ป้ายทะเบียนสีขาวอักษรฟ้า สท-และตัวเลข คือ เป็นรถของสถานทูตซึ่งได้รับสิทธิคุ้มครอง (Immunity) ตามสนธิสัญญากรุงเวียนนา
- ป้ายทะเบียนสีน้ำเงินอักษรขาว คือ ป้ายรถเจ้าหน้าที่พลเรือน
- ป้ายทะเบียนสีแดงอักษรขาว คือ ป้ายรถยนต์ของกระทรวงป้องกันความสงบ(ตำรวจ) และกระทรวงป้องกันประเทศ(ทหาร)
ประเทศเวียดนาม
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ป้ายทะเบียนรถของเวียดนามโดยทั่วไปจะมีรูปแบบ DDL-DDD.DD สำหรับยานพาหนะ ป้ายทะเบียนมาตรฐานมีตัวอักษรสีดำบนพื้นหลังสีขาว ป้ายด้านหน้ามีขนาด 47 × 11 ซม. ป้ายด้านหลังมีขนาด 27 × 20 ซม. [ จำเป็นต้องมีการอ้างอิง ]ในปี 2020 และ 2021 ป้ายทั้งสองมีขนาด 6 x 12 ซม. แผนปัจจุบันสำหรับยานพาหนะพลเรือนละเว้นตัวอักษร I, J, O, Q และ W โดยตัวอักษร R สงวนไว้สำหรับรถพ่วง และมีตัวอักษรเวียดนาม Đ รวมอยู่ ด้วย
ประเทศพม่า
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ป้ายทะเบียนรถยนต์ของเมียนมาร์ (พม่า) เริ่มใช้ในปี 1999 และอยู่ภายใต้การดูแลของกรมการขนส่งทางถนนป้ายทะเบียนรูปแบบล่าสุดเริ่มใช้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 ป้ายทะเบียนปัจจุบันประกอบด้วยรหัสภูมิภาคสามตัวอักษรและตัวเลขที่แสดงถึงตำบล (เช่น YGN-38 สำหรับเขตย่างกุ้ง ตำบลดากอง) เหนือหมายเลขซีเรียลตัวอักษรผสมตัวเลขหกตัว และรุ่นของรถที่จดทะเบียนอยู่ใต้หมายเลขซีเรียล[ 1 ]
ประเทศกัมพูชา
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://www.madehow.com/Volume-5/License-Plate.html
- ↑ 2.0 2.1 ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อ งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต และระยะเวลาในการใช้รถ และเครื่องหมายแสดงการใช้รถที่ใช้เพื่อการทดสอบ พ.ศ. ๒๕๖๐
- ↑ 3.0 3.1 ข่าวเดลินิวส์ 9 สิงหาคม 2560 - "ขนส่ง"แจงอย่าตกใจป้าย"TC" รถทดสอบ-ถูกกฎหมาย
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-26. สืบค้นเมื่อ 2012-09-25.
- ↑ http://www.tabienrod.com/?cat=8