น้อยโหน่ง
น้อยโหน่ง | |
---|---|
ผลน้อยโหน่ง | |
ผลน้อยโหน่งเมื่อผ่าครึ่ง | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Magnoliales |
วงศ์: | Annonaceae |
สกุล: | Annona |
สปีชีส์: | A. reticulata |
ชื่อทวินาม | |
Annona reticulata L. | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของน้อยโหน่งในอเมริกากลาง | |
ชื่อพ้อง | |
|
น้อยโหน่ง (อังกฤษ: Custard-apple, Bullock's-heart) ผลไม้ชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Annona reticulata อยู่ในวงศ์กระดังงา สกุลเดียวกับ น้อยหน่า (A. squamosa) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีดอกคล้ายดอกของน้อยหน่า แต่ผลมีขนาดโตกว่า เปลือกบางแต่เหนียว ค่อนข้างเรียบ ไม่นูนเป็นตา ๆ สีเขียวจาง ๆ ปนสีแดงเรื่อ ๆ ความสูงของลำต้นประมาณ 5-8 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก หรือใบประกอบแบบขนนกออกเรียงสลับเป็นรูปใบหอก ปลายและโคนใบแหลมสีเขียวสด ปลูกได้ในดินทั่วไป
เนื้อในผลหนาสีขาว รสชาติหวานแต่ไม่เท่าน้อยหน่า มีเมล็ดมาก มีคุณค่าทางอาหาร คือมีวิตามินเอมากกว่าน้อยหน่า นอกจากนี้แล้วยังมีสรรพคุณทางยา คือ ผลทั้งดิบและสุกแก้ท้องร่วง โรคบิด โรคซาง ลมจุกเสียด แก้พยาธิในท้อง และพยาธิผิวหนัง, รากใช้แก้เหงือกบวม รักษาโรคเรื้อน เปลือกและต้นใช้แก้บิด ท้องเสีย เป็นยาห้ามเลือดและสมานแผล, ใบใช้ฆ่าพยาธิผิวหนัง แก้บวมและฟกช้ำ เมล็ดใช้เป็นยาสมานแผล นอกจากนี้แล้วทั้งผลดิบและใบสดยังสามารถใช้ต้มเอาน้ำทำเป็นสีย้อมผ้าให้สีดำและสีน้ำเงินที่สวยงามและติดทนนานอีกด้วย[1][2]
น้อยโหน่ง จะนิยมรับประทานน้อยกว่าน้อยหน่า เนื่องจากผลมีกลิ่นฉุน ยังมีชื่อเรียกต่างกันไปตามภาษาถิ่นในแต่ละภาคอีกด้วย เช่น มะโหน่ง หรือ มะเนียงแฮ้ง (ภาคเหนือ), น้อยหนัง (ภาคใต้) เป็นต้น
ทั้งน้อยโหน่งและน้อยหน่า มิใช่พืชพื้นเมืองของไทยหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เป็นพืชพื้นเมืองของภูมิภาคอเมริกากลาง เชื่อว่าถูกเข้านำมาครั้งแรกในสมัยอยุธยา[3] แต่ปัจจุบัน สามารถพบน้อยโหน่งและน้อยหน่าได้ทั่วไป ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ไต้หวัน, อินเดีย, ออสเตรเลีย และแอฟริกาตะวันตก
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ น้อยโหน่ง Custard apple / Bullock[ลิงก์เสีย]
- ↑ น้อยโหน่ง [ลิงก์เสีย]
- ↑ "กินน้อยหน่าอย่าทิ้งเมล็ด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-25. สืบค้นเมื่อ 2010-10-21.