Genshin Impact Wiki
Genshin Impact Wiki
Advertisement
Genshin Impact Wiki
Qiqi JP 700k Twitter Icon
หน้าเพจนี้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
หากคุณมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โปรดคลิกที่นี่เพื่อแก้ไขและเพิ่มข้อมูล

Flower of Paradise Lost เป็นเซ็ตอาร์ติแฟกต์ ที่มีระดับดาว 4 ดาวและ 5 ดาว สามารถหาได้จากดันเจี้ยนเมืองแห่งทองคำ

เนื้อเรื่อง[]

Item Ay-Khanoum's Myriad Ay-Khanoum's Myriad

ดอกไม้อเมทิสต์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง มีลักษณะใกล้เคียงกับดอกไม้โบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

มีเพียงญินเท่านั้นที่จำเรื่องในกาลก่อนได้ จ้าวแห่งบุปผานั้นถูกสวรรค์ทอดทิ้ง
ร่างกายที่สง่างามสูงส่งโรยราทรุดโทรม เผ่าพันธุ์ก็โดนลงทัณฑ์จนเสียสติไป...

ตำนานเล่าว่าจ้าวแห่งบุปผาเคยท่องไปในดินแดนที่แห้งแล้งทุรกันดาร เป็นเวลาเจ็ดสิบสองคืน...
ส้นเท้าถูกกรวดที่ไร้ความปรานีบาดลึกฉีกขาด ปากแผลที่ได้รับมีสายไหลนองออกมาเป็นน้ำพุใส และกลายเป็นลำธารที่ไร้ขอบเขต
จากนั้นสายน้ำของลำธารก็ไหลรดสวนเขียวขจี ผลิดอกอุบลชาติสีน้ำเงินราวราตรีออกมา...
ดอกอุบลชาตินี้คือมารดาของญิน ซึ่งญินถือกำเนิดเกิดจากความฝันอันเมามาย และความทรงจำอันขื่นขมของการสูญเสีย

เดิมทีญินเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดหลักแหลม พวกนางทั้งหมดกลับเสพติดความฝันที่ไร้เดียงสาและความรักที่ราวกับความฝันอันแสนหวาน
ระลึกถึงพระคุณผู้สร้างด้วยซาบซึ้ง ญินสัมผัสแขนของนายหญิง เพื่อสวมมงกุฎดอกเบญจมาศป่าลงบนศีรษะของนาง

"จ้าวแห่งดอกไม้เอ๋ย จ้าวแห่งสวนขจี ได้โปรดอยู่ที่นี่ ได้โปรดอย่าได้ทอดทิ้งข้า!"
"ใช่แล้ว ใช่แล้ว มารดาแห่งความฝัน เมรัยและการลืมเลือน ได้โปรดเป็นราชินีของสวนแห่งนี้ด้วยเถิด"

เพราะเหล่าญินที่แสนอ่อนโยน จึงอดไม่ได้ที่จะอยู่ต่อ เทพที่ถูกเนรเทศจึงได้พักอยู่ในสวนที่ดอกไม้บานสะพรั่ง
ทุกย่างก้าวที่นางหยุดเดิน จะมีดอกไม้สีม่วงงดงามราวแสงจันทร์เบ่งบานขึ้นมา นามว่า "Padisarah"

Item Wilting Feast Wilting Feast

ขนนกจากนกที่สูญพันธุ์ไปเมื่อนานมาแล้ว ถูกฝังด้วยทองคำ และอัญมณีล้ำค่า โดยผู้ติดตามของเทพแห่งมวลบุปผาในสมัยโบราณ

ในอดีตที่มีเพียงญินเท่านั้นที่ร่ำไห้ นายหญิงแห่งโอเอซิสได้ตัดสินใจครั้งสุดท้าย
ขณะนั้น ในที่สุดเธอก็ตระหนักได้แล้วว่า ชะตากรรมของตนไม่ใช่ปริศนา แต่เป็นกุญแจในการเปิดประตูลึกลับ

จากคำพูดแค่ความฝันของราชา Deshret เธอมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะก้าวข้ามกฎอันไร้สาระของโลกนี้
ราชามงกุฎแดงปฏิเสธของขวัญจากบัลลังก์ และแสวงหาเส้นทางใหม่ตามเจตนารมณ์ของตนเอง
แม้ว่าอนาคตที่เธอเปิดเผยจะเลวร้ายและเยือกเย็น แต่กษัตริย์กลับยังยืนกรานไม่ถอยร่นแม้ครึ่งก้าว
แม้รู้ว่าต้องออกเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตราย แม้รู้ว่าจะได้เห็นการหายตัวไปของคนที่รัก...
แต่ราชันสีชาดเลือกคำโกหกอันสูงส่ง เพื่อนำพาผู้ศรัทธาไปสู่ความพินาศที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

"สิ่งที่เจ้าแสวงหาเป็นเพียงการไล่ตามลม บนหลุมศพของเทพอสูร มนุษย์จะเป็นเทพเจ้าของเหล่าทวยเทพ"
"ภาพมายาของแดนฝันอันไร้กังวลจะต้องพังทลาย และบนเศษซากของคำโกหกที่แหลกสลาย มนุษย์จะกลายเป็นราชาแห่งราชัน"

ราชินีแห่งบุปผายอมจำนนต่อความเขลาของพวกพ้อง และเธอพบว่าการกบฏอันล้ำค่านั้น ลุกโชนอยู่ในความทะเยอทะยานของเทพเจ้า
ความคิดที่จะรวมภูมิปัญญาของคนนับพัน และความพยายามอันยิ่งใหญ่ในการผูกมัดความฝัน และพลังนับพันเข้าด้วยกัน
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้นไม่ได้เป็นเพียงคำโกหก แต่มันเป็นของอนาคตของมนุษย์ ราวกับประกายไฟแห่งความหวัง...

ความฝันจะเลือนรางในที่สุด ภาพฝันมักจะมีคืนที่พังทลายลงเสมอ... นี่ต่างหากคือความหมายที่แท้จริงของการเบ่งบาน
มีเพียงการประสบกับความพินาศที่หลงผิดของเทพเจ้าเท่านั้น มนุษย์จึงจะมีวันลุกขึ้นต่อต้านความประสงค์ของเหล่าทวยเทพได้...
เช่นเดียวกับเทพผู้ดื้อรั้นที่เตรียมการกบฏลับนี้เพื่อนาง และรอดชีวิตมาได้ด้วยเจตจำนงของตัวเอง
เพียงแต่ว่า นายหญิงแห่งบุปผาไม่เคยรู้จักความรักที่จะหวานเหมือนดั่งไวน์ นับประสาอะไรกับความรักของมนุษย์เพียงเล็กน้อย
แม้ว่านางจะเฉลียวฉลาดมาก แต่ก็ยากที่จะคาดเดา เมื่อไหร่เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กพวกนี้ถึงจะตระหนักรู้ได้นะ...

"...สิ่งที่เรียกว่า 'เทพ' นั้น ไม่ได้จำเป็นสำหรับเจ้าตั้งแต่แรกแล้วหรอกหรือ?"

Item A Moment Congealed A Moment Congealed

นาฬิกาทรายที่หยุดไหล ไม่ว่าจะพลิกกลับด้านอย่างไร ก็ไม่ตอบสนองต่อการไหลของเวลาอีกต่อไป

มีเพียงญินเท่านั้นที่สามารถถอดถอนหายใจให้แก่สิ่งที่จากไป นายแห่งทรายสีชาดได้สร้างสุสานให้แก่คนรักของตน
พลังเสาที่ฝังลึกลงไปในทรายคือแหล่งกำเนิด และญินคือพลังที่คอยช่วยเหลือ ทำให้เกิดโอเอซิสที่เวลาไม่เคยหยุดนิ่ง

หลายพันปีต่อมา ตำนานของ "โอเอซิสนิรันดร์" ได้แพร่กระจายไปท่ามกลางชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทราย
ชนเผ่าเร่ร่อนกล่าวว่า นั่นเป็นโอเอซิสที่ไม่มีวันเหี่ยวเฉา และไม่มีวันโรยรา ที่ปกครองโดยเทพบุปผาผู้หลับใหลชั่วนิรันดร์
ชนเผ่าเร่ร่อนกล่าวว่า มารดาคนสุดท้ายของญิน Ferigees ได้ปกปักประตูใหญ่แห่งโอเอซิส
นางได้ให้ให้พรแก่มนุษย์ทุกคนที่มาด้วยความอ่อนโยนที่ไม่แปรเปลี่ยนเป็นเวลาหลายพันปี ไม่ว่ามนุษย์ผู้นั้นจะดี หรือจะร้าย...

ราชินีรุ่นก่อน ๆ ของชนเผ่า Tanit, Uzza, Shimti และชนเผ่าอื่น ๆ ล้วนเรียกตนเองว่า "ธิดาแห่งเทพบุปผา"
ด้วยศรัทธาเป็นรากฐาน โลหิตเป็นตัวเชื่อม และพึ่งพาสวน Padisarah ในจินตนาการนั้น...
ชนเผ่าในทะเลทรายที่แยกจาก ล้วนดิ้นรนแสวงหาสายน้ำที่ไม่มีวันหมด และความรู้อันไร้สิ้นสุด

ดั่งคำทำนายที่เทพของพวกเขาทิ้งไว้ หลังจากการล่มสลายของอารยธรรม มนุษย์ยังคงเอาตัวรอดอย่างดื้อรั้น...
แม้จะสูญสิ้นจากคำชี้นำของเทพไป จนต้องหยิบยืมความทรงจำของเทพที่ล่วงลับไปนานแล้วเพื่อรวมตัวกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทะเลทรายเกลือที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งนี้ ไม่สามารถหยุดยั้งการเหยียบย่ำของเหล่ามนุษย์ได้ แม้ว่า "โอเอซิสนิรันดร์" อาจเป็นเรื่องโกหกชั่วนิรันดร์ แต่เหล่าชนเผ่าก็ไม่ละทิ้งการค้นหามัน

"ราชาแห่งข้า... ทำไมท่านถึงได้สั่งให้เนินทรายหยุดไหล กู่ร้องบอกสายลมให้พวกมันหยุดโพยพัดกันเล่า?"
"เฉกเช่นเพลานี้ ถ้าทรายคริสตัลเหล่านี้หลอมรวมกันเป็นก้อน การดำรงอยู่ของมันจะมีประโยชน์อะไร?"
" 'นิรันดร์' ไม่เคยเป็นสวนสวรรค์ แต่เป็นสิ่งสกปรกที่กำจัดไม่ได้ ทั้งไม่สามารถย่อยสลาย และไม่สามารถสร้างใหม่ได้"
"มันเบ่งบานเหมือนดอกไม้, ถูกทำลายเหมือนดอกไม้ ทั้งยังเกิดใหม่อีกครั้งในฤดูที่ดอกผลิบาน ไร้ซึ่งปัญหายุ่งยากอย่าง 'ความตาย' "

ในขณะนั้น การสนทนาของทั้งสามพันธมิตรก็ถูกพัดล่องลอยไป ในสายลมเหนือทะเลทรายเป็นเวลาหลายพันปีให้หลัง...
ที่ไหนสักแห่งในทะเลทรายอันไกลโพ้น มีโอเอซิสยังคงอยู่ในจินตนาการ [sic]ของเหล่าชนเผ่า
และชนเผ่าที่ไร้รากเหล่านั้นยังคงวนเวียนอยู่ใน วัฏจักรแห่งชีวิตและความตาย ท่ามกลางเม็ดทรายที่ไหลรินจากเนินทราย...

Item Secret-Keeper's Magic Bottle Secret-Keeper's Magic Bottle

ขวดขนาดเล็กที่แกะสลักจากคริสตัลสีม่วง ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนาด้วยฝามรกต

ในอดีตที่มีเพียงญินเท่านั้นนิ่งสงบ ราชันทรายชาดแสดงความทะเยอทะยานของตัวเองต่อราชินีบุปผา
แสงจันทร์ส่องสะท้อนในแก้วไวน์ทาฑิม และในที่สุดราชินีแห่งบุปผาก็ยอมจำนนต่อการเกลี้ยกล่อมของเพื่อนอันเป็นที่รัก

ไม่มีใครรู้ว่าราชา Deshret พูดสิ่งใดในคืนนั้น แม้แต่ญินที่อายุมากที่สุดก็ยังเลือกที่จะปิดปากเงียบ
ไม่มีใครจำความปรารถนาของราชา Deshret ที่เผยขึ้นในคืนนั้นได้ แม้แต่เทพที่ทรงปัญญาที่สุดก็อาจสั่นสะท้าน
แต่จ้าวแห่งดอกไม้นั้นรู้ถึงความหมายของมันดี เป็นอย่างที่เธอคาดไว้ เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
ทะเลทรายและโอเอซิสเป็นราชาที่ทรงอำนาจและสูงส่งที่สุด แต่กลับมีความคิดดื้อรั้นเป็นที่สุด

"ข้าจะช่วยเจ้าเก็บความลับไว้ เพราะความรู้สึกที่มีต่อเจ้านั้นลึกซึ้งเฉกเช่นที่ข้ามีต่อเทพแห่งปัญญา"
"ข้าจะสร้างสะพานให้แก่เจ้า เพื่อเติมเต็มความฝันเฟื่องในใจเจ้า แต่อย่าได้หวั่นกลัวต่อกรงเล็บไพลินสีน้ำเงิน..."
"ข้าจะนำทางเจ้าสู่ความรู้อันลึกซึ้ง แต่อย่างที่ข้าได้เตือนไว้ ว่าเจ้าจะต้องสูญเสียมากมายอย่างแน่นอน..."
"อย่างไรก็ตาม จงจำบทเรียนที่ข้าพร่ำสอน และโทษทัณฑ์อันโหดร้ายที่เหล่าผู้ส่งสาสน์พึงได้รับ..."
"โปรดจำไว้ หากยังมีความหวังในโลกหล้า ความหวังนั้นจะอยู่ที่มนุษย์อย่างแน่นอน"

ในความมืดมิด เธอนำทางเพื่อนรักไปยังเส้นทางลับ ที่นำไปสู่ความรู้ทั้งหมดที่เกี่ยวกับสวรรค์และนรก
ใช้ตัวเองเป็นสะพาน และใช้โอเอซิสเป็นข้อแลกเปลี่ยน ความหลงผิดของเขาจะดับไปด้วยความรุ่งโรจน์อันพร่างพราว...

หลังจากสูญเสียเทพอสูร พายุแห่งสวรรค์ก็ปะทุขึ้น ทรายสีเหลืองลอยฟ่องเต็มท้องฟ้า ไม่นานหายนะก็กลืนกินทุกสิ่ง...
ราชา Deshret กลับมาจากพายุทรายที่หมุนวนเต็มท้องฟ้า แต่เขากลับไปพบแม้แต่เงาของนายหญิงแห่งบุปผา

"...เมื่อครู่ข้าฝันถึงเจ้า... คลำหาระหว่างกำแพงในเขาวงกตแห่งคริสตัล... แต่สิ่งที่พบ...กลับมีเพียงทะเลทราย..."

Item Amethyst Crown Amethyst Crown

มงกุฎที่ประดับด้วยอเมทิสต์ และมรกต ดูเหมือนจะเป็นผ้าโพกศีรษะ ของนักบวชของเทพแห่งมวลบุปผาในสมัยโบราณ

ในอดีตที่มีเพียงญินเท่านั้นที่ร้องเพลงได้ นายหญิงแห่งโอเอซิสได้พบกับราชันทรายชาด
ในช่วงเวลาโหดร้ายที่กษัตริย์แก่งแย่งชิงอำนาจกันเอง ราชา Deshret ได้ตัดสินใจแบ่งปันบัลลังก์ให้กับอีกสองคน

เหล่าญินมอบบัลลังก์นกยูงที่ประดับด้วยมรกตและทับทิม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพันธสัญญาของเพื่อนรักทั้งสามคน
เพื่อเกียรติยศแห่งโอซิสอันเป็นนิรันดร์ เพื่อ Padisarah ที่บานสะพรั่ง นายหญิงแห่งบุปผาจึงได้สวมมงกุฎอเมทิสต์

"แต่ 'นิรันดร์' เป็นเพียงคำโกหก ความมัวเมาและความรักจะบดขยี้ความทรงจำ และกลายเป็นความเพ้อฝันที่แหลกสลาย"
"เจ้าเคยถามข้าว่าทำไมถึงถอนหายใจบ่อยเหลือเกิน ในค่ำคืนที่จันทราส่องสว่างนี้ ข้าจะค่อย ๆ เล่าเรื่องในอดีตให้เจ้าฟังก็แล้วกัน..."

"มันเป็นยุคแห่งสันติที่อยู่ห่างไกลนัก มีผู้ส่งสาส์นจำนวนมากที่สื่อสารกับมนุษย์ และคอยถ่ายทอดถ้อยคำของสวรรค์..."
"แต่ต่อมา ได้มีผู้รุกรานลงมาจากฟากฟ้า ทำลายสิ่งต่าง ๆ นับไม่ถ้วน สายน้ำกลับตาลปัตร และโรคระบาดก็โหมกระหน่ำขึ้น..."
"ผู้ที่มาจากภายนอกนำสงครามมาสู่อดีตชาติตระกูลของข้า และนำความหลงผิดมาสู่การทลายพันธนาการของแผ่นดิน"
"เจ้าแห่งท้องนภาหวาดกลัวต่อความหลงผิดและความก้าวหน้า ท่านจึงปลดปล่อยตะปูศักดิ์สิทธิ์เพื่อซ่อมแซมโลก และทำลายอาณาจักรมนุษย์ให้สิ้น..." "เราต้องทนทุกข์กับการถูกเนรเทศ ขาดการติดต่อกับสวรรค์ และสูญเสียความสามารถในการศึกษา..."

"เนื่องจากภัยพิบัติ ข้าถูกสาปแช่งอย่างรุนแรงจนไม่สามารถแหงนมองท้องฟ้าได้อีก โชคดีที่ข้ายังรักษาชีวิตได้ถึงทุกวันนี้..."
"แต่บ้านเกิดเอาแต่พร่ำเรียกฉันอยู่เสมอ แม้ว่าภัยพิบัติของดวงดาวกับขุมนรกจะก่อตัวขึ้นบนคริสตัลก็ตาม"
"จงฟังคำเตือนของข้า อย่าได้ตามหาจ้าวแห่งเงาทั้งสี่ อย่าถามถึงความลับของสวรรค์และขุมนรก"
"มิฉะนั้น ดั่งเมื่อกรงเล็บแห่งลงทัณฑ์เป็นที่แน่ชัด จุดจบอันน่าเศร้าและขมขื่นจะบังเกิดขึ้น"

อย่างไรก็ตาม ราชาสีชาดไม่เห็นด้วยกับคำเตือนของคู่หู และแสดงความปรารถนาอันหยิ่งผยองขึ้นในใจ
ภายใต้แสงจันทร์ส่อง ขณะบรรจงเช็ดน้ำตาของคู่หู เขาบอกเล่าความปรารถนาของตนเองให้แก่เทพอสูรแห่งบุปผาฟัง...

ดูเพิ่ม[]

ชื่อในภาษาอื่น[]

ภาษาชื่ออย่างเป็นทางการความหมายที่แท้จริง
ไทยFlower of Paradise Lost
อังกฤษFlower of Paradise Lost
จีน
(ตัวย่อ)
乐园遗落之花
Lèyuán Yíluò zhī Huā
จีน
(ตัวเต็ม)
樂園遺落之花
Lèyuán Yíluò zhī Huā
ญี่ปุ่น楽園の絶花
Rakuen no Zekka
Paradise's Extinct Flower
เกาหลี잃어버린 낙원의
Ireobeorin Nagwon-ui Kkot
Flower of Paradise Lost
สเปนFlor Olvidada del ParaísoParadise's Forgotten Flower
ฝรั่งเศสFleur du paradis perduFlower of the Lost Paradise
รัสเซียЦветок потерянного раяFlower of Paradise Lost
เวียดนามĐóa Hoa Trang Viên Thất Lạc
เยอรมันBlumen des verlorenen Paradieses
อินโดนีเซียFlower of Paradise Lost
โปรตุเกสFlor do Paraíso Perdido
ตุรกีKayıp Cennet ÇiçeğiFlower of the Lost Paradise
อิตาลีFiore del paradiso perdutoFlower of the Lost Paradise

ประวัติการเปลี่ยนแปลง[]

เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชัน 3.3

หน้าอื่น ๆ[]

Advertisement